มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี
สวัสดีท่านผู้อ่านทุกคน ก่อนอื่นก็ต้องขอแนะนำตัวเองก่อนนะคะ เราชื่อนางสาวยัสมี ขวัญคาวิน นักศึกษาชั้นปีที่ 3 จากคณะ มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ สาขาวิชา ภาษาและวรรณคดีไทย หรือที่เด็กนักเรียนที่นี่เรียกว่า “ครูมี่ ”
ต้องเท้าความก่อนว่าเรานั้นเป็นคนจังหวัดปัตตานี ได้ยินคำนี้เข้าไป งานนี้คงต้องเผลอร้องฮู้ว...ไม่มากก็น้อยใช่ไหมคะ เนื่องจากเราไม่ได้บินข้ามฟากมาจากภาคใต้สู่ภาคเหนือเท่านั้น แต่เป็นครูจากสามจังหวัดชายแดนใต้ที่บินมาไกลถึงเชียงใหม่กันเลยทีเดียวเชียว หากถามว่าทำไมถึงได้ตัดสินใจมาฝึกงานที่ศูนย์การเรียนไร่ส้มวิทยา มูลนิธิกระจกเงา เราคงตอบไปว่าเราชอบในการทำงานจิตอาสาโดยเฉพาะด้านการสอน เราจึงเลือกที่จะฝึกงานอยู่ในฝ่ายการศึกษา และเราได้ฝึกงานอยู่ในฝ่ายการศึกษา และเราได้รับแรงบันดาลใจมาจากรุ่นพี่ที่เคยมาฝึกงานที่นี่แล้วกลับไปเล่าให้รุ่นน้องอย่างเราฟัง ความรู้สึกที่ได้ฟังพี่ๆเล่าประสบการณ์ดีดีที่ได้รับจากศูนย์การเรียนไร่ส้มวิทยาในครั้งนั้น ยังคงตราตรึงในใจจนเราตั้งมั่นว่าต้องมาฝึกงานที่นี่ให้ได้สักครั้งในชีวิต เมื่อได้มาอยู่ ณ จุดนี้จึงพูดได้เต็มปากว่าประทับใจและเกินความคาดหมายเสียจริง ประสบการณ์ได้ฟังจากพี่ๆนั้นเทียบไม่ติดกับประสบการณ์ที่เราได้ลงมือทำ
เราจะเล่าประสบการณ์ที่ได้จากการมาฝึกงาน ณ สถานที่แห่งนี้ ศูนย์การเรียนไร่ส้มวิทยา การมาฝึกงานในครั้งนี้เราได้มาทำงานนานถึง 1 เดือนกว่า ความเป็นจริงมันก็ไม่ได้นานเลยเนื่องจากเรามีเวลาฝึกงานได้เพียง 5 สัปดาห์เท่านั้น ถึงอย่างไรก็ตามความประทับใจและประสบการณ์ที่ได้รับมาก็คงไม่อาจที่จะลืมเลือนไปง่ายๆ การทำงานตั้งแต่สัปดาห์แรกจนถึงสัปดาห์สุดท้ายก็มีทั้งอุปสรรคและความท้าทายมากมายที่ครูฝึกงานต้องฝ่าฟันไปด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการดูแลเลี้ยงเด็กนักเรียนระดับชั้นอนุบาล การรับมือพูดจาโน้มน้าวให้เด็กๆที่ทะเลาะกัน ได้ปรับความเข้าใจและหันมาสนใจในสิ่งที่เราสอน หรือการที่เราต้องสอนเด็กประถมศึกษาปีที่ 1 ในเรื่องของการท่องจำ A-Z และต้องพยายามรับมือกับพลังงานที่ล้นเหลือของเด็กๆชั้นปีนี้ก็เอาซะครูแทบหมดแรง หรือในเรื่องของการที่เราต้องมาวางแผนทั้งเรื่องการเรียนการสอนและสถานที่ที่จะจัดสอนที่เราจำเป็นที่จะต้องมาพูดคุยและวางแผนกัน
อย่างไรก็ตามพวกเราครูฝึกงานทุกคนก็มีพี่เลี้ยงและคุณครูที่แสนใจดีคอยชี้แนะให้เราทำในสิ่งที่ควรจะทำจนสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี การฝึกงานร่วมกับผู้อื่นเป็นตัวขัดเกลาทำให้เรากลายเป็นที่ต้องคอยเข้าหาผู้คน คุณครูจากศูนย์การเรียนไร่ส้มวิทยาก็มีหลายคน แต่ละคนก็จะมีวิธีการสอนที่แตกต่างกันไป ข้อดีในจุดก็คือการที่เราได้เรียนรู้วิธีการสอนเด็กๆของคุณครูแต่ละคนซึ่งแน่นอนว่าเราสามารถที่จะนำไปปรับใช้และปฏิบัติได้ในอนาคต
นอกจากเรื่องการฝึกงานที่ประทับใจจนไม่รู้จะประทับใจยังไงแล้ว ก็ยังมีบรรยากาศแลสภาพแวดล้อมที่ดีทั้งทางด้านสภาพอากาศและสภาพสังคม แม้ว่าช่วงที่เราไปจะเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมก็ตาม แต่ภาพที่เราตื่นเช้าขึ้นมาแล้วมีกลุ่มเด็กนักเรียนมาคอยรอเราหน้าที่พัก คอยรอเราไปโรงเรียนด้วยกัน ภาพที่แสนจะอบอุ่นทั้งการที่ได้อยู่ร่วมกันกับคุณครู เพื่อนๆ และนักเรียนที่น่ารักของครูจะยังคงอยู่ในใจตลอดไป เพียงแค่นี้ก็คงรับรู้ได้ถึงความอบอุ่นใจที่ศูนย์การเรียนไร่ส้มวิทยามีให้เรามาตลอดหนึ่งเดือน สุดท้ายเราอยากขอบคุณคุณครู, พี่เลี้ยงและเพื่อนๆทุกคนที่คอยอยู่ฝ่าฟันอุปสรรคไปด้วยกัน และหากถามว่าถ้ามีโอกาสเราอยากที่จะมาที่นี่ ณ ศูนย์การเรียนไร่ส้มวิทยา มูลนิธิกระจกเงา สำนักงานฝางหรือไม่ คงตอบได้เต็มปากว่าอยากมาแน่นอนค่ะ แล้วคุณล่ะอยากมาลองค้นหาประสบการณ์ดูสักครั้งไหม